ผู้เชี่ยวชาญได้วิเคราะห์ออกมาว่า
ดินขาวลำปาง
อยู่ในตระกูลเดียวกันกับหินโทเซกิของญี่ปุ่น
ในกลุ่มอุตสาหกรรมเซรามิกเรียกกันว่า "ไชนาสโตน"
เมื่อเผาที่อุณหภูมิสูงถึง 1,300
?c
จะได้เนื้อผลิตภัณฑ์ปอร์ซเลน สีขาว แกร่ง ทนไฟสูง
อตสาหกรรมผลิตเซรามิกจึงมีมากว่า 200 โรงงาน
ตั้งอยู่ในอำเภอที่สำคัญของจังหวัดลำปาง
เฉพาะในเขตอำเภอเมืองมีถึงร้อยละ70
ที่เหลืออยู่ในเขตอำเภอเกาะคา และอำเภอห้างฉัตร
อุตสาหกรรมเซรามิกลำปางจึงมีลักษณะเด่นตามกรรมวิธีการผลิตดังนี้:
1. แบบอนุรักษ์ดั้งเดิม
จากการอาศัยดินฟ้าอากาศตามธรรมชาติ ใช้เครื่องมือกึ่งมืกึ่งเครื่องจักรที่เรียกว่า
"จิ๊กเกอร์" ในการขึ้นรูป
เผาด้วยเตามังกรโบราณ
ซึ่งสร้างด้วยดินในท้องถิ่นที่มีคุณสมบัติพิเศษทนไฟ
ก่อเป็นรูปเตาโค้งยาวประมาณ 14-16 เมตร
มีระยะช่องใส่เชื้อเพลิงตลอดความยาว
การเรียงเครื่องปั้นดินเผาเข้าเตา
เป็นแบบขั้นบันได สามารถจุได้ 5,000-6,000
ใบในแต่ละครั้ง
โดยใช้ฟืนไม้ไผ่แห้งเป็นเชื้อเพลิง ใช้เวลาเผา 18
ชม.ขึ้นไป
และต้องทิ้งให้เย็นตัวลงจึงจะนำผลิตภัณฑ์ออกมาคัดเกรดจำหน่ายได้
ยุ่งยากซับซ้อนพอสมควร
กรรมวิธีการผลิตถูกสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ
โดยเฉพาะเทคนิคการเผาด้วยการดูเปลวไฟเพื่อเทียบเคียงความร้อน
ที่อุณหภูมิ 1,250-1,300
?c
ออกมาเป็นภาชนะที่หนา แกร่ง คงทน
สามารถนำมาใส่อาหาร หรือเข้าเตาไมโครเวฟได้
มีราคาถูกแบบชาวบ้าน
ตลาดซื้อขายใกล้ชิดกับกลุ่มเกษตรกรรมในประเทศทั้งหมด
ผลิตภัณฑ์จะเน้นเฉพาะแบบใดแบบหนึ่ง จำแนกออกเป็น 4
กลุ่มคือ
ก.
กลุ่มทำถ้วยตราลาย
และถ้วยขนม
ข. กลุ่มทำถ้วยขนาด 5-7 นิ้ว วาดลายดอกไม้
ซึ่งจะมีราคาระดับชาวบ้านตั้งแต่ 0.95 สตางค์ ถึง
6
บาทต่อชิ้นต่อใบ
ค. กลุ่มทำชามวาดลายไก่แบบของเก่า สีใต้เคลือบขนาด
5-8 นิ้ว ราคาระดับผู้ใช้แรงงาน 7-18บาท
ต่อใบ
ง. กลุ่มทำลูกตุ้มไฟฟ้า
จึงเป็นระบบเศรษฐกิจแบบพอเพียง เนื่องจากต้องพึ่งพิงปัจจัยทางธรรมชาติ
และเครื่องมือที่ใช้แรงงานคนที่สามารถทำงานหนักได้
เป็นกระบวนการหลักในการผลิต
2. แบบสมัยนิยม
กรรมวิธีการผลิตสามารถใช้การขึ้นรูปแบบเท
หรือเครื่องมือจิ๊กเกอร์ได้เป็นแบบชัตเติล
หยุดเป็นครั้งคราวได้ ใช้แก๊สเป็นเชื้อเพลิง
มีขนาดตั้งแต่ 1 คิว-6คิว
และนิยมทำกันเป็นกิจการภายในครอบครัว
ผลิตภัณฑ์มีทั้งประเภทเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร
ชุดกาแฟ แก้วทรงสูง แจกัน
ชุดเซรามิกจิ๋ว ของชำร่วย
ของตกแต่งภายในบ้าน เครื่องเบญจรงค์
และกลุ่มวัสดุก่อสร้างกระเบื้องและลูกกรงเซรามิก
ลักษณะงานต้องใช้ฝีมือ ตกแต่งสีสันได้สวยงาม
มีคุณภาพ สามารถแข่งขันกับตลาดต่างประเทศได้
บางชนิดก็ผลิตจำนวนน้อย เนื่องจากเป็นงานศิลปะ
ใช้เวลานาน เผาที่อุณหภูมิสูง
มีทั้งเนื้อสีขาวและสีครีม ประเภทสโตนแวร์ และเอิร์ทเทอร์นแวร์
มีรูปลักษณ์ที่หลากหลาย สะดุดตา
สะดุดใจ โดยเฉพาะนวัตกรรมลายไก่ ราคาตั้งแต่
5-65 บาทต่อใบ
ปัจจุบันมีกระจายมากมายในจังหวัดลำปาง
ซึ่งมีทั้งอุตสาหกรรมครอบครัว จนถึงขนาดใหญ่
เป็นผู้ประกอบการที่อยู่ในเขตอำเภอเมือง
อำเภอเกาะคา และอำเภอห้างฉัตร
ตลาดมีทั้งเพื่อการส่งออก และจำหน่ายภายในประเทศ
สำหรับผลิตภัณฑ์เซรามิกยุคใหม่
สามารถนำมาประกอบเข้ากับตัวสินค้าที่เป็นธุรกิจใหม่อีกหลายอย่าง
ได้แก่ ธุรกิจหล่อเทียนหอม ซึ่งญี่ปุ่น
และไต้หวันกำลังบูมมาก ธุรกิจดอกไม้ประดิษฐ์
ธุรกิจอุปกรณ์ไฟฟ้า
และงานบูรณกรรมสำหรับโบสถ์วิหาร เป็นต้น
3. แบบใช้เทคโนโลยีชั้นสูง
กระบวนการผลิตใช้พลังงานความร้อนที่สามารถควบคุมได้
โดยการเผาต่อเนื่องชนิดพิเศษภายในเตาอุโมงค์
ซึ่งใช้แก๊สเป็นเชื้อเพลิง
กำลังการผลิตมีมากเป็นหมื่นชิ้นขึ้นไป
ด้วยเครื่องจักรที่ทันสมัย
คุณภาพชิ้นงานดีเยี่ยม
สามารถรับงานตามที่ลูกค้าต่างประเทศต้องการได้
ผลิตภัณฑ์เซรามิกในกลุ่มนี้จะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบ
และสไตล์ตลอดเวลา ทั้งแบบสีสัน สวยงาม
หรือแบบหรูหรา คลาสสิก
ผลิตภัณฑ์สามารถทำเป็นชุดเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร
ถ้วย-จาน-ชาม ชุดถ้วยซุปทุกแบบทุกขนาด
แก้วเบียร์ ชุดกาแฟสไตล์ยุโรป เป็นต้น
ส่วนใหญ่เป็นงานที่เน้นเพื่อการส่งออก
นอกจากนั้นยังมีผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในกลุ่มวัสดุก่อสร้าง
เช่นกระเบื้อง เครื่องสุขภัณฑ์
และงานลูกกรงเซรามิก เน้นจำหน่ายภายในประเทศ
ปัจจุบันกลุ่มผู้ประกอบการเซรามิกที่ใช้เตาอุโมงค์
มีต้นทุนการผลิตสูง
จึงต้องมีความพร้อมในด้านเงินทุน เทคโนโลยี
และการบริหารจัดการ
โรงงานเซรามิกกลุ่มนี้มีประมาณ 18 โรงงาน
ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมืองเป็นส่วนใหญ่
ด้วยความเป็นมา
และศักยภาพที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ จังหวัดลำปาง
จึงถูกขนานนามเป็น "เมืองเซรามิก" (Ceramic
City) ของประเทศไทย
ข้อมูลเชิงลึกโดย:
รัตนา สินวรรณกุล
<<
กลับไปหน้าแรก
|